วิธีการเลือกกระติกน้ำสุญญากาศ:

1. เลือกจากลักษณะของฝากระติกน้ำสุญญากาศ

• กระติกน้ำสุญญากาศแบบกด (One Touch): กระติกที่สามารถกดเปิดได้ด้วยมือเดียว และมีฝากระบอกที่เด้งขึ้นมาเพื่อดื่มได้ทันที มีความสะดวกสบายและไม่ต้องใช้มือเสริม.
• กระติกน้ำสุญญากาศแบบฝาเกลียว: กระติกที่มีฝาที่ต้องเกลียวเพื่อเปิด-ปิด มีความเหมาะสำหรับการใช้งานที่ไม่ต้องการความรีบร้อน และสามารถใส่เครื่องดื่มหลายชนิดได้.
• กระติกน้ำสุญญากาศแบบหลอดดูด: กระติกที่มีหลอดดูดในการดื่ม มีความสะดวกสบายและเหมาะสำหรับทุกกลุ่มอายุ โดยเฉพาะเด็กเล็ก แต่ต้องระมัดระวังในการทำความสะอาด.

2. การทำความสะอาด:

• กระติกน้ำสุญญากาศที่มีการสัมผัสกับปากหรือผู้ดื่มตรงจัดเป็นประการสำคัญ ควรทำความสะอาดอย่างสม่ำเสมอหลังจากใช้งาน, อย่างน้อย 1 ครั้งต่อวัน, เพื่อป้องกันการสะสมแบคทีเรีย.

3. รูปแบบการใช้งาน:

• ควรเลือกตามการใช้งานประจำ ว่าคุณต้องการความสะดวกสบายมากน้อยเพียงไร กระติกแบบ One Touch เหมาะสำหรับการเคลื่อนไหวมาก, ในขณะที่กระติกแบบฝาเกลียวเหมาะกับการใช้งานที่นิ่ง.

4. ความคงทน:

• เลือกกระติกที่ทนทานและทำจากวัสดุคุณภาพ เช่น สแตนเลสหรือพลาสติกที่ทนทานต่อการใช้งานทุกวัน.

5. การรักษาความเย็นและความร้อน:

• ถ้าคุณต้องการให้เครื่องดื่มคงความร้อนหรือเย็น, กระติกที่สามารถรักษาอุณหภูมิได้นานจะเป็นทางเลือกที่ดี.

6. ขนาด:

• เลือกขนาดที่เหมาะสมกับการใช้งานของคุณ ขนาดใหญ่เหมาะสำหรับการเดินทางนาน ๆ, ขนาดเล็กเหมาะสำหรับการใช้ในชีวิตประจำวัน.

7. ราคา:

• พิจารณางบประมาณของคุณ แต่อย่าละเลยคุณภาพ เพราะการลงทุนในกระติกที่ดีสามารถให้ประโยชน์ที่ยาวนาน.

8. อุปกรณ์เสริม:

• คำนึงถึงการมีอุปกรณ์เสริม เช่น ตะกร้าสำหรับกระติกหรือตัวกรองเพื่อป้องกันการไหลออกมาขณะดื่ม.

9. น้ำหนัก:

• ควรพิจารณาน้ำหนักที่เบาพกพาง่าย, โดยเฉพาะถ้าคุณมีแนวโน้มที่จะพกไปทุกที่.

10. การทนต่อสภาพอากาศ:

• ถ้าคุณมีแนวโน้มที่จะใช้ในสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงบ่อย, เลือกกระติกที่ทนทานต่อสภาพอากาศ.สรุป: การเลือกกระติกน้ำสุญญากาศเป็นเรื่องสำคัญเพื่อให้ได้รับประสบการณ์การใช้งานที่สะดวกสบายและปลอดภัยที่สุด อย่าลืมทำความสะอาดอย่างสม่ำเสมอและรักษาอย่างถูกต้องเพื่อการใช้งานที่ยาวนาน

วิธีตรวจสอบประสิทธิภาพในการรักษาอุณหภูมิของกระติกน้ำสุญญากาศ

กระติกน้ำสุญญากาศทำจากสเตนเลสมีความสามารถในการรักษาอุณหภูมิภายในได้นาน ซึ่งสามารถเก็บรักษาความร้อนและความเย็นได้โดยมีขอบเขตของอุณหภูมิที่เหมาะสม. ปกติแล้ว, กระติกสามารถเก็บรักษาอุณหภูมิในช่วง 60 – 80 องศาเซลเซียสได้นานประมาณ 6 ชั่วโมง, และความเย็นในระดับ 9 องศาเซลเซียสได้ประมาณ 8 ชั่วโมงขึ้นไป.

อย่างไรก็ตาม, ประสิทธิภาพในการรักษาอุณหภูมิขึ้นอยู่กับเทคโนโลยีและโครงสร้างของกระติก. กระติกบางยี่ห้ออาจมีความสามารถในการรักษาความร้อนหรือความเย็นเฉพาะอย่างเดียว, ขึ้นอยู่กับวัสดุและโครงสร้าง. การตรวจสอบว่ากระติกสามารถรักษาอุณหภูมิที่คุณต้องการได้นานเพียงพอเหมาะสมกับการใช้งานของคุณ.

 เลือกจากน้ำหนักและชิ้นส่วนของกระติกน้ำสุญญากาศ:

• น้ำหนัก: เลือกกระติกที่มีน้ำหนักเบาประมาณ 250 กรัม, โดยคำนึงถึงความสะดวกในการพกพา. น้ำหนักจะเพิ่มขึ้นเมื่อใส่ของเหลว, จึงควรพิจารณาการใช้งานร่วมกับน้ำหนักที่คาดหวัง.
• ชิ้นส่วน: กระติกน้ำสุญญากาศที่มีชิ้นส่วนน้อย, ทำความสะอาดง่าย, และสามารถถอดออกได้จะเป็นที่พึงพอใจ. ควรพิจารณาว่าสามารถล้างทำความสะอาดได้ง่ายหรือไม่, อุปกรณ์เสริมที่มี, และวิธีการดูแลรักษา.
• วัสดุภายใน: ตรวจสอบว่าส่วนภายในของกระติกสามารถถอดออกมาในการล้างทำความสะอาดหรือไม่, ซึ่งจะช่วยในการรักษาความสะอาดและป้องกันการเกิดเชื้อรา.

การเลือกกระติกน้ำสุญญากาศที่เหมาะสมต้องพิจารณาทั้งน้ำหนัก, ชิ้นส่วน, และความสะดวกในการรักษาความสะอาด เพื่อให้การใช้งานของคุณมีประสิทธิภาพและสะดวกสบาย.