การเลือกซื้อพัดลมในปี 2024: ตั้งโต๊ะหรือตั้งพื้นยี่ห้อไหนดี?

การเลือกซื้อพัดลมให้เหมาะสมกับความต้องการของคุณในปี 2024

ในปี 2024 ที่มีสภาพอากาศร้อนแบบอบอ้าวเรื่อย ๆ ในเมืองไทย การเลือกซื้อพัดลมกลายเป็นสิ่งจำเป็นที่ไม่ควรมองข้าม เพราะเป็นทางออกที่ดีที่สุดทั้งในเรื่องของความคุ้มค่าและความสะดวกสบายในการใช้งาน

ในปัจจุบันมีพัดลมหลายรุ่นที่มาพร้อมกับฟังก์ชันการใช้งานที่หลากหลาย เช่น การปรับระดับความสูง การหมุนได้ถึง 360 องศา และยังมีระบบพัดลมไร้ใบพัดที่ช่วยให้การใช้งานมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

ในบทความนี้ เราจะมาแนะนำวิธีการเลือกซื้อพัดลมให้เหมาะสมกับสถานที่และคุ้มค่ากับการใช้งาน โดยมีคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญด้านเครื่องใช้ไฟฟ้า รวมถึง 10 รุ่นพัดลมยี่ห้อดี ๆ จากแบรนด์ยอดนิยม ที่มีคุณสมบัติเด่น เช่น การให้ลมเย็นอย่างมีประสิทธิภาพ การปรับระดับแรงลมได้ และมีระบบตัดไฟป้องกัน

อีกทั้งยังมีหลายรูปแบบของพัดลมให้เลือกหลากหลาย เช่น พัดลมตั้งพื้น พัดลมตั้งโต๊ะ พัดลมติดผนัง และพัดลมทาวเวอร์ ที่มีขนาดตั้งแต่ 16 – 18 นิ้ว ซึ่งจะช่วยให้คุณสามารถเลือกซื้อพัดลมที่เหมาะสมกับพื้นที่และการใช้งานของคุณได้อย่างแม่นยำ สะดวก และคุ้มค่าที่สุด

10 อันดับ พัดลม ยี่ห้อดี ปี 2024: ตั้งพื้น, ทาวเวอร์, ตั้งโต๊ะ

ในปี 2024 ที่มีสภาพอากาศร้อนแบบอบอ้าวเรื่อย ๆ ในเมืองไทย การเลือกซื้อพัดลมกลายเป็นสิ่งจำเป็นที่ไม่ควรมองข้าม เพราะเป็นทางออกที่ดีที่สุดทั้งในเรื่องของความคุ้มค่าและความสะดวกสบายในการใช้งาน

ในปัจจุบันมีพัดลมหลายรุ่นที่มาพร้อมกับฟังก์ชันการใช้งานที่หลากหลาย เช่น การปรับระดับความสูง การหมุนได้ถึง 360 องศา และยังมีระบบพัดลมไร้ใบพัดที่ช่วยให้การใช้งานมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

ในบทความนี้ เราจะมาแนะนำวิธีการเลือกซื้อพัดลมให้เหมาะสมกับสถานที่และคุ้มค่ากับการใช้งาน โดยมีคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญด้านเครื่องใช้ไฟฟ้า รวมถึง 10 รุ่นพัดลมยี่ห้อดี ๆ จากแบรนด์ยอดนิยม ที่มีคุณสมบัติเด่น เช่น การให้ลมเย็นอย่างมีประสิทธิภาพ การปรับระดับแรงลมได้ และมีระบบตัดไฟป้องกัน

อีกทั้งยังมีหลายรูปแบบของพัดลมให้เลือกหลากหลาย เช่น พัดลมตั้งพื้น พัดลมตั้งโต๊ะ พัดลมติดผนัง และพัดลมทาวเวอร์ ที่มีขนาดตั้งแต่ 16 – 18 นิ้ว ซึ่งจะช่วยให้คุณสามารถเลือกซื้อพัดลมที่เหมาะสมกับพื้นที่และการใช้งานของคุณได้อย่างแม่นยำ สะดวก และคุ้มค่าที่สุด

วิธีเลือกซื้อพัดลมที่เหมาะสม

พัดลมเป็นอุปกรณ์ที่สำคัญในการเติมความสดชื่นให้กับทุกห้องในบ้าน ไม่ว่าจะเป็นห้องนอน ห้องครัว หรือห้องทำงาน เพราะมีประโยชน์ในการลดความร้อนและเพิ่มอุณหภูมิในบรรยากาศให้สดชื่นมากยิ่งขึ้นการเลือกซื้อพัดลมที่เหมาะสมนั้นไม่ได้ยากเพียงแค่รู้ว่าคุณต้องการพัดลมประเภทใด และคุณสามารถเลือกด้วยความสบายของคุณ โดยพิจารณาจากขนาดของห้อง รุ่นที่ต้องการ เสียงที่ส่งออก และการปรับความเร็วของลมนอกจากนี้ยังสามารถเลือกซื้อพัดลมที่มีคุณสมบัติเสริม เช่น พัดลมที่มีระบบไร้ใบพัดที่สามารถลดเสียงรบกวนให้น้อยลง หรือพัดลมที่มีระบบไฟป้องกัน ทำให้ปลอดภัยขึ้น ด้วยข้อมูลและวิธีการเลือกซื้อที่ถูกต้อง คุณสามารถเลือกซื้อพัดลมที่เหมาะสมกับความต้องการและสภาพอากาศของที่อยู่ได้อย่างมีประสิทธิภาพและคุ้มค่า

1.สำหรับใช้งานทั่วไปในบ้าน พัดลมตั้งพื้นสามารถใช้งานได้อเนกประสงค์มากที่สุด

วิธีการเลือกพัดลมตั้งพื้นที่เหมาะสมสำหรับบ้านพัดลมตั้งพื้นเป็นรูปแบบที่นิยมใช้งานในทุกบ้าน เนื่องจากมีความแข็งแรงทนทาน ราคาไม่แพงเมื่อเทียบกับรุ่นอื่น สามารถใช้งานทั่วไปได้ทุกพื้นที่ เช่น ห้องนอน ห้องนั่งเล่น ห้องโถง หรือห้องครัว ข้อดีของพัดลมรุ่นนี้คือ ตัวเครื่องมีการออกแบบให้ค่อนข้างยาวและปรับระดับความสูงได้ตามต้องการ จึงสามารถปรับทิศทางลมได้อย่างแม่นยำ แต่หากจะใช้งานในห้องกว้าง ควรเลือกรุ่นที่สามารถปรับความสูงได้ไม่น้อยกว่า 80 ซม. เพื่อให้แรงลมครอบคลุมทุกพื้นที่การใช้งาน นอกจากนี้ ยังมีหลายขนาดให้เลือกตั้งแต่ 16 นิ้ว ไปจนถึง 20 นิ้ว โดยจะมีใบพัดตั้งแต่ 3 – 5 ใบพัด ควรเลือกขนาดให้เหมาะสมกับพื้นที่ตั้งและจำนวนผู้ใช้งาน เพื่อให้แรงลมกระจายได้อย่างทั่วถึง เช่น ห้องนอนหรือหอพัก ที่มีผู้ใช้งานเพียงคนเดียว ควรเลือกขนาด 16 นิ้ว แต่หากมีผู้ใช้งานเพิ่มมา 2 – 3 คน ควรเลือกขนาด 16 – 18 นิ้ว เป็นต้น

ใครที่มีงบเยอะ แนะนำพัดลมทาวเวอร์ที่มีฟังก์ชันเยอะและกรองอากาศได้

พัดลมทาวเวอร์: ทันสมัยและครอบคลุมทุกการใช้งาน

พัดลมทาวเวอร์เป็นรุ่นใหม่ที่เป็นที่นิยม เนื่องจากมีขนาดกะทัดรัด รูปร่างเพรียวสูง ดีไซน์สวย และไม่เปลืองพื้นที่ จึงเหมาะสำหรับบ้านที่มีพื้นที่จำกัด เนื่องจากสามารถวางในบริเวณที่แคบได้และไม่เกะกะ อีกทั้งยังมีฟังก์ชันที่หลากหลาย ที่ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายในการใช้งานมากขึ้น

ปัจจุบันพัดลมทาวเวอร์สามารถแบ่งออกได้เป็น 2 แบบ คือ แบบใบพัดตรงแกนทาวเวอร์ ที่ให้แรงลมแบบทรงพลัง สามารถปรับระดับแรงลมให้กระจายเป็นมุมกว้างได้หลายระดับ และแบบไร้ใบพัด ที่ให้แรงลมน้อยกว่าแบบมีใบพัด แต่มีความปลอดภัยในการใช้งาน เป่าลมได้นุ่มนวลกว่า จึงเหมาะสำหรับผู้ที่เป็นหวัดง่ายจากการถูกลมปะทะ เช่น เด็กเล็กและผู้สูงอายุ

นอกจากนี้ พัดลมทาวเวอร์รุ่นใหม่ยังมักมาพร้อมฟังก์ชันกรองอากาศที่ช่วยกำจัดฝุ่นละออง และมีการเชื่อมต่อกับแอปพลิเคชันในสมาร์ทโฟนเพื่อใช้ในการควบคุมแทนรีโมท ดังนั้น ควรพิจารณาความแรงมอเตอร์เป็นหลัก เพราะยิ่งกำลังวัตต์สูง แรงลมก็มากขึ้น แต่จะส่งผลให้มีราคาสูงและกินไฟเพิ่มขึ้นด้วย

2.หากใช้งานพื้นที่จำกัด เช่น ออฟฟิศ หรือห้องทำงาน เลือกพัดลมตั้งโต๊ะจะเหมาะสมที่สุด

พัดลมตั้งโต๊ะ: ความสะดวกสบายในทุกการใช้งาน

พัดลมตั้งโต๊ะเป็นเครื่องใช้ที่มีขนาดไม่ใหญ่พอที่จะต้องใช้พื้นที่มากมาย และสามารถเคลื่อนย้ายไปยังจุดต่าง ๆ ได้อย่างสะดวกสบาย โดยสามารถวางบนโต๊ะหรือเฟอร์นิเจอร์ได้ ขนาดของพัดลมตั้งโต๊ะมักมีตั้งแต่ 6 นิ้วถึง 16 นิ้ว โดยมีขนาดใหญ่มากขึ้นจะให้แรงลมมากกว่า แต่ต้องเลือกขนาดที่เหมาะสมกับพื้นที่การใช้งาน เพื่อไม่ให้เกิดการเกะกะและได้รับแรงลมที่ทั่วถึง หากต้องการใช้งานในห้องทำงานหรือโต๊ะทำงานที่บ้าน ควรเลือกขนาด 6 – 10 นิ้ว เพียงพอสำหรับการเป่าลมในระยะใกล้ แต่หากต้องการใช้งานในร้านค้าที่ต้องการแรงลมมากกว่า ควรเลือกขนาด 12 นิ้วขึ้นไป เพื่อให้มีการกระจายความเย็นทั่วถึง

ข้อเสียของพัดลมตั้งโต๊ะคือการกระจายแรงลมไม่ค่อยมีประสิทธิภาพเท่าไร จึงเหมาะสำหรับใช้งานในห้องที่มีขนาดเล็กหรือสำหรับเป่าลมในระยะใกล้ และไม่เหมาะสำหรับการใช้งานในห้องที่มีขนาดใหญ่หรือต้องการเป่าลมไกลการเลือกซื้อพัดลมตั้งโต๊ะควรพิจารณาเรื่องเสียงให้เลือกรุ่นที่ทำงานเงียบ โดยเฉพาะสำหรับการใช้งานในออฟฟิศหรือโต๊ะทำงานที่บ้าน เพราะพัดลมประเภทนี้มักจะใช้งานในระยะใกล้ นอกจากนี้ ควรเลือกรุ่นที่มีระดับความแรงได้อย่างน้อย 2 – 3 ระดับและสามารถปรับหมุนได้หลายทิศทางเพื่อช่วยกระจายลม รวมทั้งป้องกันไม่ให้พัดลมเป่ามากเกินไป

3.กรณีพื้นที่กว้างแต่เนื้อที่ใช้สอยจำกัด เช่น สำนักงาน ร้านอาหารหรือร้านค้า แนะนำให้ใช้พัดลมแบบติดผนัง

พัดลมแขวนผนัง: ความสะดวกสบายในการใช้งานทุกประเภทของห้อง

พัดลมแบบติดผนังหรือแขวนผนังเป็นรูปแบบที่ใช้ติดตั้งตามผนังห้องต่าง ๆ โดยมักนิยมใช้ในอาคารสถานที่ทั่วไปที่มีขนาดกว้างแต่มีพื้นที่ใช้สอยจำกัด เช่น สำนักงาน ร้านอาหาร ร้านค้า หรือแม้แต่ห้องเรียน เนื่องจากพัดลมมีหน้ากว้างและลำตัวสั้นและติดบนผนัง จึงประหยัดที่บนพื้นได้เยอะ ซึ่งบางบ้านที่มีห้องขนาดใหญ่แต่ไม่มีเนื้อที่ เช่น ห้องครัว หรือห้องนั่งเล่น ก็สามารถใช้งานได้เช่นกัน

ปัจจุบันพัดลมแขวนผนังมีให้เลือกใช้งานตั้งแต่ 16 นิ้ว จนถึง 20 นิ้ว ซึ่งในการเลือกซื้อควรตรวจสอบหน้ากว้างให้เหมาะกับพื้นที่ เพื่อให้แรงลมกระจายครอบคลุมทั่วถึง รวมทั้งควรเลือกรุ่นที่สามารถปรับช่วงการสวิงได้ด้วย ซึ่งส่วนใหญ่แทบทุกแบรนด์จะสามารถสวิงได้มากถึง 180 องศา หรือรุ่นที่ปรับระดับความแรงลมได้อย่างน้อย 2 ระดับ เพื่อช่วยระบายอากาศได้อย่างรวดเร็วและกระจายความเย็นได้ทั่วถึง

กรณีต้องการใช้งานในพื้นที่ขนาดใหญ่ เช่น สำนักงาน ห้องประชุม หรือจำเป็นต้องติดตั้งพัดลมไว้บนผนังในตำแหน่งที่สูง แนะนำให้เลือกรุ่นที่มีรีโมทคอนโทรล เพื่อควบคุมการทำงานหรือตั้งค่าต่าง ๆ จากระยะไกลได้สะดวกยิ่งขึ้น รวมทั้งอาจเลือกรุ่นที่มีฟังก์ชันการตั้งเวลาเปิด-ปิดได้เพื่อความสะดวกมากขึ้น

4.พื้นที่ขนาดใหญ่ เช่น โรงงาน กลางแจ้ง ห้องประชุม ต้องใช้พัดลมอุตสาหกรรมที่มีใบพัดขนาดใหญ่

พัดลมอุตสาหกรรม: สมรรถนะและประสิทธิภาพในการระบายอากาศ

พัดลมอุตสาหกรรมเป็นพัดลมแบบตั้งพื้นที่มีหน้ากว้างและใบพัดใหญ่เป็นพิเศษ มีมอเตอร์ขนาดใหญ่ที่ให้กำลังไฟสูง ทำให้แรงลมที่ปล่อยออกมามีความแรงและกระจายลมได้อย่างมีประสิทธิภาพ นิยมใช้ในโรงงานอุตสาหกรรม ห้องประชุมใหญ่ หรือพื้นที่ที่ต้องการอากาศถ่ายเท เช่น โกดังเก็บของ ลานกิจกรรมกลางแจ้ง ในตัวอาคารหรืองานเลี้ยงต่าง ๆ เพื่อช่วยระบายความร้อนในพื้นที่ได้อย่างดี ทำให้มีลมหมุนเวียนมากขึ้น รวมทั้งลดความร้อนสะสมจากผู้คนจำนวนมาก

ขนาดของพัดลมอุตสาหกรรมมักมีตั้งแต่ 18 – 36 นิ้ว โดยควรเลือกใช้ขนาด 18 – 26 นิ้ว สำหรับพื้นที่ปิด และขนาด 26 นิ้วขึ้นไปสำหรับพื้นที่กลางแจ้งหรือพื้นที่ปิดขนาดใหญ่มาก เพื่อให้แรงลมกระจายได้อย่างทั่วถึง การเลือกขนาดไม่เหมาะสมอาจทำให้แรงลมกระจายไม่ทั่วถึงและอาจก่อให้เกิดเสียงรบกวนจากมอเตอร์ขนาดใหญ่

5. สำหรับการพกพาเดินทาง มีพัดลมพกพาแบบมือถือหรือแบบห้อยคอให้เลือกใช้งานด้วย

สำหรับคนที่ต้องการเดินทางบ่อยหรือมีกิจกรรมกลางแจ้งที่ต้องเผชิญกับอากาศร้อน การใช้พัดลมแบบพกพาเป็นทางเลือกที่ดี เนื่องจากมีความสะดวกสบายในการใช้งานและสามารถพกพาไปได้ทุกที่ มีหลายขนาดและรูปแบบให้เลือกใช้ ดังนี้

  1. พัดลมแบบมือถือ: เป็นพัดลมขนาดเล็กกะทัดรัดที่สามารถถือได้ด้วยมือเดียว มีรูปทรงจับที่ถนัดมือ พกพาสะดวกและใช้งานง่าย ควบคุมทิศทางกระแสลมได้ตามต้องการ มีความแรงลมน้อยกว่าพัดลมทั่วไป และอายุการใช้งานของแบตเตอรี่เฉลี่ย 1 – 3 ชั่วโมง ขึ้นอยู่กับระดับความแรงลมที่ปรับ
  2. พัดลมแบบห้อยคอ: เป็นพัดลมขนาดเล็ก น้ำหนักเบามาก มีดีไซน์คล้องคอ สามารถใช้งานได้โดยไม่ต้องใช้มือ ใช้งานได้ดีในกิจกรรมต่าง ๆ เช่น ออกกำลังกาย ดูคอนเสิร์ต หรือเดินป่า มีแรงลมน้อยและเป่าได้เฉพาะส่วน อย่างไรก็ตาม บางรุ่นอาจมีน้ำหนักมากเกินไปทำให้ไม่สะดวกต่อการใช้งาน จึงควรเลือกรุ่นที่มีน้ำหนักเบาที่สุด

การเลือกใช้พัดลมแบบพกพาขึ้นอยู่กับการใช้งานและความสะดวกสบายของแต่ละบุคคล โดยควรพิจารณาความแรงของลม ระยะเวลาการใช้งาน และน้ำหนักของพัดลมเพื่อให้เหมาะสมกับการใช้งานและการพกพาในทุกๆ สถานการณ์ที่เจอ

6. ถ้าต้องการความสะดวกในการใช้งานเป็นหลักให้เลือกระบบดิจิตอล แต่ถ้าเน้นใช้ง่ายและราคาประหยัดให้เลือกระบบแมนวล


ยุคสมัยปัจจุบันมีการพัฒนาเทคโนโลยีในพัดลมอุตสาหกรรมอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้การใช้งานมีประสิทธิภาพมากขึ้น ระบบควบคุมการทำงานของพัดลมได้ถูกปรับปรุงให้มีความสะดวกสบายและประหยัดพลังงานมากยิ่งขึ้น ในปัจจุบันมีระบบควบคุมการทำงานของพัดลมออกแบบมาให้ใช้งานได้หลากหลาย โดยสามารถแบ่งเป็น 2 ประเภทหลัก คือ

  1. ระบบแมนนวล: เป็นระบบที่ใช้งานง่าย ทนทาน และมีราคาถูกกว่าระบบดิจิตอล มักใช้ปุ่มกดเพื่อควบคุมการทำงานของพัดลม การซ่อมบำรุงก็ไม่ซับซ้อน
  2. ระบบดิจิตอล: เป็นระบบควบคุมการทำงานด้วยระบบสัมผัส (Touch Screen) มีฟังก์ชันการใช้งานหลากหลาย เช่น ฟังก์ชันตั้งเวลาเปิด-ปิด ฟังก์ชันปรับระดับแรงลม และฟังก์ชันปรับแรงลมตามอุณหภูมิ มีความสะดวกสบายมากขึ้น แต่มีราคาสูงกว่าแบบแมนนวลและมีค่าซ่อมสูง

ระบบดิจิตอลยังมีรุ่นที่มาพร้อมรีโมทคอนโทรลเสริม เพื่อควบคุมการทำงานมากยิ่งขึ้น นอกจากการใช้รีโมทคอนโทรลแล้วยังสามารถกดที่ตัวเครื่องได้อีกด้วย จึงเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความสะดวกสบายเป็นหลัก รวมทั้งเหมาะสำหรับผู้สูงอายุที่ต้องการการใช้งานที่ง่ายดาย

7. อย่าลืมตรวจสอบมีฉลากประหยัดไฟฟ้าเบอร์ 5 และระบบตัดไฟอัตโนมัติเพื่อความปลอดภัย

เลือกมอเตอร์ของพัดลมที่เหมาะสมกับงบประมาณและประหยัดพลังงานไฟฟ้า การเลือกใช้มอเตอร์ในพัดลมมีความสำคัญมาก เพราะมีผลต่อราคาและการใช้งานของพัดลมโดยตรง ควรคำนึงถึงความเหมาะสมของมอเตอร์กับงบประมาณ และควรเลือกมอเตอร์ที่มีฉลากประหยัดไฟฟ้าเบอร์ 5 เพื่อประหยัดค่าไฟฟ้า

มอเตอร์ที่ใช้ในพัดลมมักเป็นมอเตอร์ DC ที่ใช้ไฟกระแสตรง มีกำลังไฟน้อยและช่วยประหยัดการใช้พลังงานไฟฟ้า นอกจากนี้ มอเตอร์ DC ยังสามารถใช้งานต่อเนื่องได้เป็นเวลานานๆ และควรเลือกใช้พัดลมที่มีระบบตัดไฟอัตโนมัติ เพื่อความปลอดภัยในการใช้งานในระยะยาว

คำแนะนำเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเลือกซื้อพัดลมได้แก่การคำนึงถึงขนาดของพื้นที่ที่ต้องการใช้งาน รวมถึงการตรวจสอบระบบควบคุมอื่น ๆ ที่อาจมีอยู่บนพัดลม เช่น ระบบตั้งเวลาเปิด-ปิด การปรับระดับแรงลม หรือการปรับแสง LED ซึ่งจะช่วยเพิ่มความสะดวกสบายในการใช้งานอีกด้วย

 

 

 

 

By namtan

Related Post