การเดินทางด้วยยานพาหนะเป็นส่วนสำคัญของชีวิตประจำวันของคนส่วนใหญ่ แต่อาจพบว่าหลายคนมีปัญหาเมารถที่อาจทำให้การเดินทางไม่สะดวก ซึ่งอาการเมารถมักเกิดขึ้นฉับพลันขณะเดินทาง ไม่ว่าจะเป็นในรถยนต์ รถไฟ เครื่องบิน หรือเรือ อาการเมารถอาจเป็นอุปสรรคที่สำคัญในการใช้ชีวิตประจำวันได้

วิธีการป้องกันและบรรเทาอาการเมารถที่มีประสิทธิภาพที่สุดคือการใช้ยาแก้เมารถ ดังนั้น เพื่อความปลอดภัยในการใช้ยา นี่คือขั้นตอนที่ควรพิจารณาเมื่อต้องการเลือกใช้ยาแก้เมารถ:

  1. ปรึกษาเภสัชกรหรือแพทย์: ก่อนที่จะเริ่มใช้ยา ควรปรึกษาเภสัชกรหรือแพทย์เพื่อขอคำแนะนำและคำปรึกษาเกี่ยวกับยาที่เหมาะสมกับสภาพสุขภาพและประวัติการแพ้ยาของแต่ละบุคคล
  2. เลือกยาที่เหมาะสม: ควรเลือกยาที่เหมาะกับปัญหาเมารถของตนเอง โดยมีหลายรูปแบบให้เลือก เช่น ยาเม็ดรับประทาน แผ่นแปะหลังหู ลูกอม หรือยาดม
  3. ควรเลือกยาที่มีมาตรฐานและปลอดภัย: ควรเลือกใช้ยาที่ได้รับอนุญาตจำหน่ายและมีมาตรฐานคุณภาพ การเลือกยาจากแหล่งที่เชื่อถือได้จะช่วยให้มั่นใจในความปลอดภัยของยาที่ใช้
  4. คำแนะนำการใช้ยา: ควรอ่านคำแนะนำการใช้ยาที่ระบุในบรรจุภัณฑ์หรือคำแนะนำจากเภสัชกร และปฏิบัติตามขั้นตอนทุกขั้นตอน
  5. ควรทดลองใช้ก่อนการเดินทาง: หากเป็นครั้งแรกที่ใช้ยา ควรทดลองใช้ก่อนการเดินทางจริงเพื่อตรวจสอบว่ามีปฏิกิริยาแพ้หรือไม่
  6. ตรวจสอบวันหมดอายุ: ตรวจสอบวันหมดอายุของยาและไม่ควรใช้ยาที่หมดอายุ

การเลือกใช้ยาแก้เมารถที่เหมาะสมและปลอดภัยจะช่วยให้การเดินทางเป็นไปได้สะดวกและประทับใจมากขึ้น ควรรักษาความสำคัญในการเลือกใช้ยาและปฏิบัติตามคำแนะนำเพื่อรักษาสุขภาพขณะเดินทางอย่างเหมาะสม

การเลือกยาแก้เมารถเป็นขั้นตอนสำคัญที่จะช่วยให้การเดินทางไม่เสียสมดุลและสะดวกสบายมากขึ้น ดังนั้น นอกจากการเลือกยาแก้เมารถที่เหมาะสมกับอาการเมารถของแต่ละบุคคลแล้ว ยังควรทราบข้อควรระวังและข้อควรรู้ที่เกี่ยวข้องกับการใช้ยาดังกล่าวด้วย

สำหรับคนที่มีอาการเมารถมากๆ และต้องการความรวดเร็วในการบรรเทาอาการ ควรเลือกยาแก้เมารถที่เป็นเม็ดรับประทาน ที่มีออกฤทธิ์เร็วและมีประสิทธิภาพสูง เช่น ยาไดเมนไฮดริเนตหรือยาไซไคลซีน

ยาแก้เมารถที่อยู่ในกลุ่มยาแก้แพ้หรือยาต้านฮิสตามีน เช่น ยา Antihistamines มีประสิทธิภาพในการลดอาการเมารถ และช่วยบรรเทาอาการเวียนหัว คลื่นไส้ และอาเจียน

แต่ต้องระวังถึงความผิดปกติทางกล้ามเนื้อในการใช้ยา Anticholinergic ซึ่งอาจทำให้เกิดผลข้างเคียงที่ไม่พึงประสงค์ เช่น ปากแห้ง คอแห้ง หรือท้องผูก ผู้ที่มีโรคหอบหืด โรคต้อหิน หรือโรคต่อมลูกหมากโตควรปรึกษาแพทย์ก่อนการใช้ยาในกลุ่มนี้

นอกจากนี้ การทดลองใช้ยาก่อนการเดินทางเป็นขั้นตอนที่ดี เพื่อตรวจสอบว่ามีปฏิกิริยาแพ้หรือไม่ และควรอ่านคำแนะนำการใช้ยาที่แถบบรรจุภัณฑ์หรือจากเภสัชกรเพื่อให้การใช้ยาเป็นไปอย่างปลอดภัย

ในกรณีที่ยาแก้เมารถไม่มีประสิทธิภาพหรือมีผลข้างเคียงที่ไม่พึงประสงค์ ควรปรึกษาแพทย์เพื่อรับคำแนะนำเพิ่มเติมและการวินิจฉัยทางการแพทย์

“สำหรับคนที่มีอาการไม่เยอะ แนะนำยาแก้เมารถรูปแบบแผ่นแปะหลังหูที่ใช้งานง่ายและไม่ง่วง”

สำหรับบุคคลที่มีอาการเมารถไม่ค่อยมาก ยาแก้เมารถที่มีรูปแบบแผ่นแปะหลังหูเป็นตัวเลือกที่สะดวกและง่ายต่อการใช้งาน ยาแบบนี้มีลักษณะที่ออกฤทธิ์ได้นาน และมีการทดสอบความปลอดภัย เพื่อให้ความสบายในการใช้งาน ภญ.อรณิชา วัชรเสมากุล (แพรว) เภสัชกร, แนะนำว่า ยาแก้เมารถแบบแผ่นแปะหลังหูสามารถออกฤทธิ์ได้นาน แต่ประสิทธิภาพอาจไม่สูงเท่ากับยาแก้เมารถในรูปแบบเม็ด และมีความสะดวกสบายในการพกพา และมีการกระทำที่น้อยกว่ายาเม็ดหรือแผ่นแปะหลังหูทำให้ไม่ง่วง

นอกจากนี้ ควรระวังว่ายาแก้เมารถรูปแบบแผ่นแปะหลังหูไม่ควรให้เด็กที่อายุต่ำกว่า 6 ปีหรือสตรีที่มีครรภ์ใช้ เนื่องจากอาจมีผลกระทบต่อสุขภาพ ซึ่งต้องรีบริเวณแพทย์หรือเภสัชกรก่อนการใช้

“สำหรับคนที่มีอาการไม่เยอะ แนะนำยาแก้เมารถรูปแบบแผ่นแปะหลังหูที่ใช้งานง่ายและไม่ง่วง”

ยาแก้เมารถที่มีรูปแบบแผ่นแปะหลังหูและใช้งานง่ายเหมาะสำหรับบุคคลที่มีอาการเมารถไม่ค่อยมาก ภายในแผ่นนี้อาจมีสารสำคัญที่ช่วยลดอาการเมารถ และเป็นทางเลือกที่สะดวกสบายในการใช้งาน ภญ.อรณิชา วัชรเสมากุล (แพรว) เภสัชกร, แนะนำยาแก้เมารถแบบแผ่นแปะหลังหู สามารถออกฤทธิ์ได้นาน แต่ประสิทธิภาพอาจไม่สูงเท่ากับยาแก้เมารถในรูปแบบเม็ด โดยยังมีความสะดวกสบายในการพกพา และมีการกระทำที่น้อยกว่ายาเม็ดหรือแผ่นแปะหลังหูทำให้ไม่ง่วง

ควรระวังว่ายาแก้เมารถแบบแผ่นแปะหลังหูไม่ควรให้เด็กที่อายุต่ำกว่า 6 ปีหรือสตรีที่มีครรภ์ใช้ เนื่องจากอาจมีผลกระทบต่อสุขภาพ รวมถึงการควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนการใช้

“กรณีที่ต้องการหลีกเลี่ยงอาการง่วงซึมเพื่อความปลอดภัย ขอแนะนำให้เลือกใช้ยาแก้เมารถในรูปแบบลูกอมหรือยาดมจะเหมาะสมที่สุด”

ในกรณีที่ต้องการหลีกเลี่ยงอาการง่วงซึมเพื่อความปลอดภัย ควรเลือกยาแก้เมารถในรูปแบบลูกอมหรือยาดม ยาแก้เมารถที่มีลูกอมหรือรูปแบบยาดมมักจะออกฤทธิ์เร็ว และไม่ทำให้ง่วงซึม แต่ประสิทธิภาพอาจไม่สูงเท่ากับยาแก้เมารถในรูปแบบเม็ดหรือแผ่นแปะหลังหู ภญ.อรณิชา วัชรเสมากุล (แพรว) เภสัชกร, แนะนำยาแก้เมารถแบบลูกอมและยาดมจะมีข้อดีคือ ออกฤทธิ์เร็ว ไม่ทำให้ง่วงซึม แต่ประสิทธิภาพอาจไม่สูงเท่ายาเม็ดหรือแผ่นแปะหลังหู

“สำหรับกลุ่มเด็กควรเลือกชนิดของตัวยาและขนาดยาให้เหมาะสมตามน้ำหนักตัวเด็ก แต่ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนทุกครั้ง”

สำหรับกลุ่มเด็กควรระวังในการให้ยาแก้เมารถ เนื่องจากวัยเด็กมีภูมิต้านทานไม่แข็งแรง และต้องจำกัดขนาดของยาเพื่อให้เหมาะสมกับร่างกาย จึงควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนทุกครั้ง  ขนาดของยาที่เหมาะสมในเด็กจะแตกต่างกันตามน้ำหนักตัวเด็ก และชนิดของยา ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรเพื่อให้ได้ขนาดที่เหมาะสม เพื่อป้องกันผลข้างเคียงที่ไม่พึงประสงค์และให้เด็กได้รับประสบการณ์การรักษาที่ปลอดภัย

“สำหรับกลุ่มเด็กควรเลือกชนิดของตัวยาและขนาดยาให้เหมาะสมตามน้ำหนักตัวเด็ก แต่ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนทุกครั้ง”

สำหรับเด็กควรระวังในการให้ยาแก้เมารถ เนื่องจากวัยเด็กมีภูมิต้านทานไม่แข็งแรง และต้องจำกัดขนาดของยาเพื่อให้เหมาะสมกับร่างกาย ดังนั้น ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนทุกครั้ง เพื่อให้ได้ขนาดที่เหมาะสมและป้องกันผลข้างเคียงที่ไม่พึงประสงค์ ภญ.อรณิชา วัชรเสมากุล (แพรว) เภสัชกร, แนะนำว่า ขนาดของยาที่เหมาะสมในเด็กจะแตกต่างกันตามน้ำหนักตัวเด็ก และชนิดของยา ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรเพื่อให้ได้ขนาดที่เหมาะสม เพื่อป้องกันผลข้างเคียงที่ไม่พึงประสงค์และให้เด็กได้รับประสบการณ์การรักษาที่ปลอดภัย

By siriluk